Abyssal Blood สาวน้อยควงเคียว Roguelike มินิมอลสุดเพลิน จากฝึมือคนไทย
Review
สั้นๆ เลยว่าน่าจะเป็นเกมที่ดีและตรงความใจของผมที่สุดที่คนไทยเคยทำมา ส่วนถ้าอยากได้แบบละเอียด ตามนี้ครับ
Gameplay
- เกมนี้เป็นเกม Roguelike ที่มาแนว Bullet Heaven แต่เป็นมุมมองด้านข้างแทน ซึ่งผมแปลกใจมากว่าทำไมไม่ค่อยเห็นใครทำ หรือไม่เห็นเองก็ไม่รู้
- เกมมีฉากที่แคบมาก และศัตรูล้นจอจนต้องยืนซ้อนกันเลยก็ว่าได้ แต่กลับมองง่ายและเล่นง่ายกว่าที่คิดเฉยเลย อาจจะเพราะมันหลบง่าย และสีไม่ซับซ้อน
- อาวุธในเกม สามารถเก็บเงินไปปลดล็อคได้ แต่ละอันผมว่าสร้างสรรค์มากเลย จากสัมภาษณ์ที่เคยฟังทีมงาน ว่าเขาสนใจทำเกมเพื่อที่จะเพิ่มอาวุธใหม่เข้าไปเยอะๆ ได้ ตรงนี้เชียร์เลย เพราะมันดูไม่ค่อยเห็นจากที่อื่นเท่าไหร่
- แต่ละอาวุธก็สามารถเลือก Option เพิ่มเติมได้ อันนี้ก็เปลี่ยนแนวการเล่นได้หลากหลายเลย
- สกิลกดใช้ในเกม เหมือนไม่มีให้เปลี่ยน มีแค่ 2 สกิล ปาหอก กับเรียกหนามที่พื้น ใช้ได้หลายสถานการณ์ก็จริง แต่แอบน่าเบื่อไปหน่อย
- สกิลอัพเพิ่มตอนเวลอัพใน Run ออกแนว Passive มากกว่า ผมว่าแปลกใหม่อยู่ แค่มี Double Jump ให้เลือกได้แบบไม่จำกัดนี่ก็แปลกพอแล้ว เสียดายพื้นที่ในเกมแคบมาก ทำให้บางสกิลอย่าง Double Jump / เพิ่ม Speed ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่
ภาพ
- เป็น Pixel Art ที่ทำมาโอเคเลย Animation ก็เช่นกัน
- สีคุม Theme ได้ดีมาก แดง ขาว ดำ
- แต่สำหรับศัตรู คุมสีดีเกินไปจนแยกอะไรไม่ออก 555 โดยเฉพาะสีขาวที่ใช้ซ้ำกันทั้ง Summon เพื่อนและศัตรู สังเกตไม่ทันหลบหลายครั้งมาก
- ฉากหลังใน Run ผมว่าดูสวยเรียบง่ายมาก สบายตาตอนเล่น
- ตรงข้ามกับฉากหลังใน Lobby เลย ผมว่าฉูดฉาดไปหน่อย
- Post-processing Effect ที่เห็นชัดๆ ก็น่าจะมี Bloom ที่ใส่มาหน่อยๆ บวกกับ Screen Shaking เขย่าจอนิดๆ มินิมอลตามสไตล์เลย แต่จริงๆ เกมมันถูกจำกัดสีด้วยการคุมโทนขนาดนี้ อาจจะใช้เอฟเฟคอื่นช่วยหน่อยก็น่าจะได้เหมือนกัน เพื่อเสริมให้บางส่วนมันเด่นขึ้น ผมก็ไม่รู้จะต้องเพิ่มอะไรเหมือนกัน แค่รู้สึกว่ามันทำได้ 555
UI/UX
- โดยรวมเป็นจุดอ่อนที่สุดของเกมนี้แล้ว UI หลายๆ ส่วนดูไม่ค่อยเด่น และสังเกตได้ยากมาก
- Tutorial ส่วนตัวผมไม่ค่อย focus text อยู่แล้ว ยิ่งมี text อะไรต่างๆ อยู่บนจอมากมายยิ่งทำให้ไม่อยากอ่านเลย ยิ่งใน Tutorial ที่มันง่ายมากๆ ควรจะผ่านไปได้ง่ายๆ ผมกลับใช้เวลามากขึ้นเพราะไม่เข้าใจ
- ในหน้า Lobby ก่อนเริ่มเล่น Run ฉากหลังและฉากหน้าสีเด่นกันทั้งคู่ บางทีเปิดเมนูขึ้นมาก็โดนสีฉากหลังกลืนไปบ้าง
- เกมนี้มี NPC เยอะมาก แล้วอาวุธต่างๆ ดันแยกเป็นรายคนอีก เพราะฉะนั้นถ้าอยากเปลี่ยนอาวุธหรือลองอาวุธใหม่ ต้องไปคุยกับ NPC สลับกันไปมา แล้วเกมดันมีจังหวะ NPC ทักทายกันก่อน แถมยังมีเลือกเมนูย่อยอีก ทำให้เสียเวลาเกินจริงไปมาก
- UI ใน Run ที่บอกเลือด / Exp / Skill / Cooldown ดูไม่ออกเลย เอาตรงๆ คือเล่นจนเคลียร์ ผมไม่ได้ดูอะไรเลยยกเว้นเลือด (เพราะจำเป็นจริงๆ) บางอย่างที่จำเป็นเหมือนกันอย่าง Dash Cooldown ผมยังไม่รู้เลยว่าดูตรงไหน
เพลง
- เพลงที่ใช้ประกอบ เป็นแนวตระกูล Drum & Bass / Jungle ซึ่งบังเอิญเหลือเกินว่าตรงใจผมมาก (ดูทุกคลิปใน YouTube ช่วงหลังๆ ได้ 555)
- เอาตรงๆ ผมว่าเพลงชิลเกินไปที่จะมาอยู่ในเกมธีม Action ขนาดนี้ แต่ก็พอเข้าใจเลยว่า 1 Run เกือบครึ่งชั่วโมง เพลงชิลๆ แบบนี้ก็ถือว่าฟังเพลินและ Balance ของมันแล้ว
- ในเพลงมันจะมีเสียงผู้หญิงแทรกมาเป็นระยะๆ ไม่รู้ว่าเป็น Voice Sample ที่มีอยู่ในเพลงอยู่แล้ว หรือเป็น Copyright Tag แบบ "Audio Jungle" ในสมัยก่อน แต่ผมว่ามันหลอนแปลกๆ ผมฟังแนวนี้มาก็เยอะแต่ในเกมนี้มันเด่นมากจริงๆ ไม่รู้คิดไปเองมั้ย
- Sound Effect เกมแนวนี้แน่นอนว่ามันต้องมีเสียงเล่นแสปมใส่หูเราตลอดเวลา แต่ส่วนตัวผมว่าเกมนี้ไม่ได้น่ารำคาญเท่าไหร่ แถมเสียงก็ยังมีความแตกๆ Snappyๆ ทำให้เวลาฟังมันสะใจอยู่ใช้ได้ ยกเว้นเสียงนึงคือปืน ที่ฟังดูอัดลมไปนิดนึง
- พากย์ญี่ปุ่น ผมว่ามันหลุดๆ นิดนึง อาจจะเพราะเข้ามาโดยไม่ได้คิดว่ามันจะต้องมีพากย์ญี่ปุ่นมั้ง ฟังแล้วเกาหัวเลย 555
สรุปคือถ้าเป็นผม จะแนะนำเกมนี้ให้คนที่ชอบแนวแบบเดียวกันแน่นอน ถือว่าสนุกใช้ได้เลย และพูดแบบอวยได้เลยว่า นี่น่าจะเป็นเกมไทยที่ผมได้เล่นและชอบที่สุดเลยในปีนี้ ยังไงก็ขอให้ทีมงานโชคดีครับ